สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตรร่วมเสวนา “AIP การขับเคลื่อนเกษตรไทยสู่ความยั่งยืน” ในงานประชาสัมพันธ์ระบบ Dashboard ของ GISTDA

สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร โดยนางสาวสุกัลยา กาเซ็ม ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจทรัพยากรธรรมชาติทางการเกษตร และเจ้าหน้าที่ส่วนวิจัยเศรฐกิจสังคมครัวเรือนและประกันภัยการเกษตร ส่วนเสริมสร้างนวัตกรรมด้านวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร และส่วนวิจัยเศรษฐกิจเทคโนโลยี ทรัพยากรการเกษตร และสิ่งแวดล้อม ได้เข้าร่วมงานประชาสัมพันธ์การใช้ระบบ Dashboard ภายใต้โครงการสนับสนุนการกำหนดนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้านการเกษตร (AIP for Climate Resilient Agriculture) จัดโดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ณ โรงแรม อัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ โดยมีนางกานดาศรี ลิมปาคม รองผู้อำนวยการ GISTDA เป็นผู้กล่าวต้อนรับ และนายกฤษ อุตตมะเวทิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน ซึ่ง ผชช.สุกัลยา ได้ร่วมเป็นวิทยากรเสวนาหัวข้อ “AIP การขับเคลื่อนเกษตรไทยสู่ความยั่งยืนท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ด้วย

งานดังกล่าว GISTDA จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ AIP Dashboard และสาธิตการใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงที่ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถติดตามสถานการณ์ภูมิอากาศ วิเคราะห์พื้นที่เสี่ยง และวางแผนเชิงนโยบายด้านการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง GISTDA ได้พัฒนาร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมการข้าว กรมชลประทาน กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์วิจัยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศระดับภูมิภาคและพลังงานทดแทน โดยมีผู้บริหารจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานพันธมิตร และผู้แทนจากภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมงานกว่า 250 คน

ทั้งนี้ “AIP for Climate Resilient Agriculture” ถูกออกแบบให้เป็นระบบสนับสนุนการตัดสินใจที่ครอบคลุม 3 มิติหลัก ได้แก่

  1. การบริหารจัดการระยะสั้น (Short-term Management) การติดตามและพยากรณ์สถานการณ์น้ำท่วม–ภัยแล้ง แบบ Near-Real time ช่วยให้หน่วยงานระดับท้องถิ่นสามารถเห็นแผนที่พื้นที่เสี่ยง เพื่อเฝ้าระวัง และเตรียมพร้อมรับมือ ลดผลกระทบได้อย่างเหมาะสม
  2. การปรับตัวจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระยะยาว (Long-term Adaptation) การวิเคราะห์สถานการณ์ตามฉากทัศน์ (Scenarios) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต 10-20 ปีข้างหน้า เพื่อให้ผู้กำหนดนโยบายสามารถทดสอบผลลัพธ์ของแผนงานหรือนโยบายต่างๆ ก่อนนำไปใช้จริง และเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุด
  3. การลดผลกระทบ (Climate Change Mitigation) การบริหารจัดการมีเทนในนาข้าว ซึ่งเป็นแหล่งปล่อยก๊าซมีเทนที่สำคัญ โดยระบบสามารถประเมินและจำลองปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่จะลดลง หากเกษตรกรปรับเปลี่ยนวิธีการเพาะปลูก (เช่น การทำนาแบบเปียกสลับแห้ง) เพื่อส่งเสริมการทำเกษตรคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม

Scroll to Top